มาถึงตอนที่ 7 แล้วตอนนี้เรามาดูกันว่าน้องๆในทีม NocNoc เถียงหัวหน้ายังไงให้ชนะ
เคยอ่านบทความหลายอันที่พูดถึงเรื่องนี้ บางบทความก็บอกว่าใช้เหตุผล บางบทความบอกใช้ข้อมูลดูอิมแพคใช้ feedback จากลูกค้าแต่สุดท้ายถ้าหัวหน้าบอกว่า “ก็ผมคิดว่าใช่ต้องทำแบบนี้แหละ” คุณก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี คงต้องยอมรับและทำโปรเจคฟ้าประทานต่อไป
ก่อนจะเริ่มเถียงหรือเริ่ม challenge idea ของผู้บังคับบัญชา ดูก่อนเลยว่าวิธีการทำงานของบริษัทเรามันเอื้อกับ feedback loop หรือไม่ ระบบเราสามารถทดลองและเก็บข้อมูลเพื่อกลับมาตัดสินใจง่ายแค่ไหน และวัฒนธรรมองค์กรยอมรับการเปลี่ยนแปลงหรือความล้มเหลวในแต่ละโปรเจคได้ไหม
Building the Culture
NocNoc พยายามทำให้ทุกตำแหน่งสามารถฟีดแบกกลับมา ทุกไอเดียได้รับความสนใจเท่าๆกัน ทุกมุมมองได้รับการดูแลไม่ว่าจะมาจากผู้ใช้หรือผู้บริหาร เพราะเราเชื่อว่าไอเดียดีๆมีอยู่มากมาย แต่สิ่งที่ยากคือเราจะทำยังไงให้ได้ไอเดียที่ดีที่สุดและปฏิเสธไอเดียดีๆที่เหลือทิ้งไป
NocNoc กำลังทำ experimentation culture นั่นหมายความว่าทุกไอเดียเป็นแค่ hypothesis จนกว่าคุณจะ validate มันได้ ถ้าไอเดียคุณสามารถเทสง่ายๆได้ รันเทสได้เลยไม่ต้องรอ ถ้าอยู่ในกรอบของระบบ a/b test อยู่แล้วก็ลุยเลย
แต่ถ้าอยู่นอกระบบ เป็นไอเดียที่ใหม่มากๆ เราก็รันเทสตั้งแต่ตอน wireframing ตอน protyping เทสไปเรื่อยๆจนขึ้นเวอร์ชั่นแรกก็ยังเทสกันต่อไป ฉะนั้นถึงแม้จะเป็นไอเดียจาก CEO เราก็จะรันเทส ถ้ามันไม่เวิร์ค CEO ก็ต้องยอมรับในผลและยอมรับว่าไอเดียนี้ไม่โอเคและให้ทีมได้เดินต่อในไอเดียอื่นๆ
ฟีเจอร์ฟ้าประทาน
มีตัวอย่างฟีเจอร์ฟ้าประทานที่โดนปัดตกไปด้วยการรันเทส ก่อนหน้านี้มีไอเดียดีไอเดียหนึ่งออกมาจากการประชุมบอร์ด นั่นคือการสร้างระบบขายและจัดการ
ร้านวัสดุก่อสร้าง แต่ NocNoc ไม่ได้มีความรู้ในมุมนี้มากจึงทำ user research และจบด้วยทดสอบการสร้าง website ของ product ขึ้นมาจริงๆ (ที่กดไปไหนไม่ได้เลย) และลองดูว่ามีลูกค้าเข้ามาสนใจหรือไม่
รันไปได้สักพักเราค้นพบว่า มีหลายปัจจัยอื่นๆเยอะมากที่จะทำให้โปรเจคนี้ไม่ประสบความสำเร็จ ไอเดียจึงขอเลื่อนไปก่อนเมื่อเทียบกับไอเดียอื่นๆที่มี ณ ปัจจุบัน
A/B Test
Product Manager ที่ NocNoc ทุกคนจะต้องไม่ bias หรือไม่พยายามตามหา confirmation bias แต่คือการรันเทสทุกครั้งที่เราสงสัยบางอย่าง เช่น เราสงสัยว่าพื้นที่ใส่คูปองมันรบกวนการซื้อของหรือไม่ เลยลองย้ายที่และรันเทสดู
We hypothesize that moving the coupon input section out of the sticky bar on the mobile version
will increase the conversion rate from Cart to Payment
because users get less distracted by the feelings that they have to fulfill the need of finding a coupon
ซึ่งผลลัพท์คือ… ลองไปดูใน mobile web กันค่ะ ว่าเราเปลี่ยนไหม
Expected Results
ผลลัพท์ที่อยากให้เกิดขึ้นก็คือทุกคนสามารถออกไอเดียได้เต็มที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใครอยู่ส่วนไหนขององค์กร การรัน a/b test ไม่ได้ใช้ lagging indicator อย่างยอดขายหรือจำนวนเงินที่ได้จึงทำให้แต่ละฟีเตอร์สามารถพัฒนา user experience ได้จริงๆ
เราตั้งใจให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะไม่อยากให้มี HiPPo (Highest Paid Person Opinion) และไม่มีคำว่า my gut feeling อยู่ในบริษัท เราอยากทำให้ user experience ที่ดีมันเกิดขึ้นจากลูกค้าและผู้ใช้งานทุกท่านจริงๆ
สุดท้าย…
ถ้าคุณคิดว่าตัวเองมีไอเดียดีแต่ไม่เคยได้โอกาส สนใจการทำงานแบบไม่มีขอบเขตปิดกั้น อยาก challenge หัวหน้าให้ชนะแบบใสๆ มาร่วมงานกัน >>> https://career.nocnoc.com